|
ปรึกษาเปิดร้านอะไหล่
ปัจจุบัน นี้มีร้านอะไหล่มอเตอร์ไซค์จำนวนมากที่ใช้คำนี้ ซึ่งก็เป็นไปตามระยะเวลาร้านพนมเปิดร้านอะไหล่มาทั้งสิ้นกว่า 20 ปีแล้ว แต่เริ่มทำอะไหล่อย่างเดียวมา 15 ปีแล้ว ทางเราคิดเสมอว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เราได้เปิดร้านให้ลูกค้าไปเป็นจำนวนมาก เราคิดเสมอว่า เราต้องมีความซื่อสัตย์ต่ออาชีพ ต่อลูกค้า ระมัดระวังผลกระทบต่อร้านค้าและลูกค้าเสมอมา และจะไม่ทำลายวงการอะไหล่มอเตอร์ไซค์เป็นอันขาด
แต่ในปัจจุบันเศรษฐกิจอาจจะไม่ดี แต่ในอาชีพนี้อยู่ได้ อาจจะมีบางร้านบางคน (ส่วนน้อยมาก) ที่อาจจะพูดเกินจริง โฆษณาเกินจริงทุกท่านที่จะเปิดร้าน หรือซื้อสินค้าโปรดตรวจสอบข้อมูลให้ดี ถ้าข้อความ สิ่งไหนเรา ไม่แน่ใจ ขอให้ถามให้ละเอียด เพื่อจะไม่ได้ผิดพลาดและทะเลาะกันภายหลัง
ทางร้านพนม อะไหล่พยายามพัฒนาระบบบาร์ โค้ด สร้างระบบมาตรฐานเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจในตัวสินค้า มีการผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐาน การสร้างแบรนด์สินค้า การแพ็คกิ้ง เพราะทางร้านมีระบบการขายที่เป็นมาตรฐาน ทั้งค้าส่งในสถานที่กว่า 2 ไร่เปิดบริการถึงเที่ยงคืนทุกวันไม่มีวันหยุด ส่วนค้าเปลีกเปิดตั้งแต่ 8โมงครึ่งถึง 3 ทุ่มทุกวันไม่มีวันหยุด ค้าส่งรถไปส่งที่ขนส่งทุกวัน จันทร์ถึง วันเสาร์
เรามีโชว์รูมค้าปลีก 4 แห่งคือ (BRANCH OF PANOMRACING)
1. PANOM GIANT STORE พนมไจแอนท์สโตร์ ขายปลีก-ส่ง
เบอร์ 02-088-5292
2. สาขาถนนแพรกษา จ.สมุทรปราการ (PRAKKASA RD. SAMUTPRAKARN)
เบอร์ 02-701-4784 , 02-701-4785, 02-701-5393
3. สาขา จ.สุพรรณบุรี (ใกล้หอนาฬิกา) (SUPANBURI)
เบอร์ 081-777-0552 , 089-830-0338 , 035-546-726
4. สาขาปากซอยถนนประชาอุทิศ 117/1 เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ (PRACHAUTID 117)
เบอร์ 02-462-5148 , 02-462-5149 Fax: 02-462-5147
* หากลูกค้าท่านใดอยู่ใกล้สาขาใดให้ไปใช้บริการได้ทั้งส่งและปลีกโดย ทุกสาขาราคาเท่ากันหมด *
การเริ่มต้นสู่การเป็นเจ้าของ กิจการร้านอะไหล่ ประกอบด้วย ขั้นตอนหลักดังนี้
- งบประมาณ
- ทำเลที่ตั้ง
- ผู้ดูแลร้าน (เจ้าของหรือลูกน้อง)
งบประมาณ
- ถ้าร้าน 1 คูหา ค่าสินค้าขั้นต่ำ ประมาณ 3-5 แสนบาท เป็นอย่างน้อยไม่รวมราคาค่าตึกหรือค่าตกแต่ง
- ถ้าร้าน 2 คูหา ค่าสินค้าขั้นต่ำ ประมาณ 5แสน- 1ล้านบาท ไม่รวมค่าตึก หรือค่าตกแต่ง
- ถ้าร้าน 3 คูหา(จะสวยมาก) ค่าสินค้าขั้นต่ำ ประมาณ 1 ล้านบาทขึ้นไป ไม่รวมค่าตึกหรือค่าตกแต่ง
ทำเลที่ตั้ง
- อยู่ในชุมชน, หมู่บ้าน, ในซอยก็ได้ (ถ้าเป็นถนนสายรองจะดีมาก)
- ควรมีที่จอดรถหน้าบ้าน
- ควรมีพื้นที่สำหรับเก็บสินค้า
ผู้ดูแลร้านค้า
- ต้องเป็นเจ้าของ (ในระยะเริ่มต้น)
- มีลูกน้อง (ถ้ามีความรู้เรื่องอะไหล่จะยิ่งดี)
ปัจจุบัน นี้มีผู้สนใจเปิดร้านเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ทราบว่าจะเริ่มอย่างไรถ้าผู้สนใจจะเปิดร้านกับร้านพนมจะไม่ยาก เพราะทางร้านมีสินค้ากว่า 20,000 ชนิด เราผลิตสินค้าเองนำเข้าจากต่างประเทศ และส่งออกต่างประเทศ เรามีสต็อกในเนื้อที่ 2 ไร่ซึ่งขายเฉพาะส่งเท่านั้น ส่วนหน้าร้านปัจจุบันมี 4 สาขาส่วนค้าส่งเราให้ลูกค้าช็อปปิ้งโดยใช้รถเข็นในซุปเปอร์ทั่วไป ช็อปปิ้งเอง เปิด 8.30-เที่ยงคืน ทุกวันไม่มีวันหยุด หากท่านคิดจะเปิดร้านใหม่ซึ่งใช้เงินจำนวนไม่น้อย กรุณาศึกษาหาข้อมูลให้มั่นใจ ดูคุณภาพของสินค้าดูรูปแบบและวิธีการของร้านค้าให้ดี ทางร้านพนมสามารถทำให้ท่านเปิดร้านแล้วอยู่ได้อย่างมั่นคงถ้าไม่เคยทำอาชีพ นี้มาก่อน
เรามีบาร์โค้ดติดที่สินค้าทุกตัว เรามีวิธีการขายที่ง่ายมากสำหรับท่าน มีระบบโปรแกรมสำเร็จรูปให้หากท่านสนใจที่จะใช้คอมพิวเตอร์ (แต่สมควรที่จะต้องมีอนาคตจะได้ไม่ยุ่งยาก) หากท่านสนใจจริง ๆ กรุณาสอบถามที่ เจ๊หนิง 081-6306741 เป็นกรณีพิเศษ
 
สัมภาษณ์เด็ด! เคล็ดลับขายอะไหล่รวย
คุณวันทนีย์ สิงห์อุบล ร้านพนมอะไหล่
INTERVIEW BIKE BUSINESS TALK
คุณวันทนีย์ (หนิง) สิงห์อุบล หญิงนักบริหาร ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ร้านพนมอะไหล่
จากจุดกำเนิดเมื่อ 17 ปีก่อน ร้านพนมอะไหล่ ตั้งขึ้นด้วยตึกแถวเล็กๆคูหาเดียวที่แพรกษา สมุทรปราการ ให้บริการจัดส่งอะไหล่มอเตอร์ไซค์ โดยมีคุณพนม อุ่นพัฒนาศิลป์ ผู้พิสมัยการตกแต่งรถและบริหารร้านร่วมกับภรรยาคนเก่ง คุณวันทนีย์(หนิง)สิงห์อุบล ก็เริ่มขยายกิจการร้านมาเปิดหน้าร้านขายปลีกในจังหวัดสมุทรปราการ หลังจากที่ได้นำความรู้ความสามารถในการตกแต่งรถมาสานต่อเป็นธุรกิจตกแต่ง ธุรกิจก็เริ่มส่อเค้าขยายตัวมากขึ้น จนต้องขยายเพิ่มขึ้นเป็นสโตร์ เป็น ธุรกิจขายอะไหล่รถเจ้าแรกเริ่ม สโลแกน "ให้คำปรึกษาเปฺิดร้านอะไหล่" เมื่อ 17 ปีที่แล้ว จากธุรกิจ 1 คูหาเริ่มเป็น 2-3-4และ 6 คูหา และ ล่าสุดมี PANOM GIANT STORE เนื้อที่ 2 ไร่ ขายอะไหล่จากบริษัทผู้ผลิตนับร้อยราย สินค้านับหมื่นรายการ มี 4 สาขา เฟรนไชส์ 3 แห่ง และ WAREHOUSE ขนาดใหญ่อีก 1 พร้อมโครงการใหญ่ในอีกภายใน 5 ปี "BIKE SHOPPING MALL" บนเนื้อที่ 3 ไร่ครึ่ง ให้บริการแบบครบวงจรใกล้นิคมอุตสาหกรรมบางปู นอกจากบทบาทด้านธุรกิจที่ขยายตัวพุ่งกระฉูดจนฉุดไม่อยู่ ยังได้เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งสมาคม KAPMA ที่รวมตัวของกลุ่มผู้ผลิตอะไหล่ตกแต่งมอเตอร์ไซค์มากกว่า 25 บริษัท จนสองสามปีที่ผ่านมา ได้เดินทาง ROAD SHOW ไปแล้ว 4-5 ประเทศโดยมีผู้สนับสนุนคือ สสว. และ BOI นับเป็นกลุ่มธุรกิจอะไหล่รายแรกที่ตั้งขึ้นและประสบความสำเร็จ และอะไรคือแนวคิดเบื้องหลังความสำเร็จ และอะไรคือแนวคิดที่ทำให้ ร้านพนมอะไหล่ ซึ่งปัจจุบัน คือ PANOM GIANT STORE ประสบความสำเร็จได้มากมายขนาดนี้
เนื้อหาบรรทัดต่อบรรทัดต่อไปนี้ คือ คำตอบให้กับทุกคำถาม...
Q: พนมอะไหล่เริ่มต้นมาอย่างไร
A: แรกเริ่มที่ทำธุรกิจคลังอะไหล่รถมอเตอร์ไซค์แบบเป็นคลังอะไหล่มอเตอร์ไซค์นี่ ร้านพนมเราทำมานานแล้วที่นำตระกร้าใส่อะไหล่ประเภทต่างๆให้ลูกค้ามาเลือกซื้อ เรียกได้ว่าเราทำมาเป็นสิบปีแล้วโดยเมื่อก่อนไม่ได้วางแผนอะไร แต่ก็มาลงตัวตอนหลัง
Q: สาเหตุอะไรที่ต้องมีการขยายคลังสินค้าจนมาเป็น GIANT STORE อย่างปัจจุบัน
A: เพราะที่เดิมเป็นพื้นที่จำกัดเกินไป เมื่อเราต้องการสต็อคสินค้ามากๆก็มีปัญหาเพราะหลังจากทำมาก็เริ่มขยายตัวมาก ขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้ามากขึ้น เราต้องเช่าที่ตามตึกต่างๆเพื่อที่จะเก็บสินค้าไว้ ซึ่งมีเป็นจำนวนมากมาย ร้านเดิมถึงจะมีบริเวณมากถึง 6 ห้องก็จริง แต่เราต้องเช่าที่ข้างนอกอีกเป็นสิบแห่ง เมื่อลูกค้าต้องการสินค้า ก็ต้องวุ่นวายไปขนมาจากโกดังต่างๆข้างนอก ก็เกิดความไม่สะดวกขึ้น สินค้าบางอย่างถูกทับถมหายาก ก็เลยหมักหมมทับถมกันอยู่อย่างนั้น
Q: ถ้า จะย้อนเวลาไปสัก 7-8 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สินค้าอะไหล่ตกแต่งรถมอเตอร์ไซค์เริ่มบูมขึ้นมา มีกระแสการตกแต่งเกิดขึ้น ร้านพนมอะไหล่ ดักทางธุรกิจประเภาท GIANT STORE ได้อย่างไร
A: อันที่จริงมีนก็มาโดยสเต็ปของมัน อย่างที่บอกไว้ว่า เราทำธุรกิจนี้มานานนับสิบปี เมื่อเกิดความจำเป็นที่ต้องเก็บสต็อกสินค้าต่างๆ เราก็เริ่มหาที่ใหญ่ๆที่เก็บของได้มาก สะดวกในการค้นหา ในการเลือกหยิบ ก็มาเป็นโกดัง GIANT STORE ที่นี่ จัดทำแบบวางสินค้าชึ้นเดียวโล่งๆ ไม่ต้องไปหาโกดังที่อื่นหรือต้องปีนป่ายเพื่อหาของ จัดทำให้เป็นหมวดหมู่ของมัน ซึ่งสโตร์อย่างที่เราต้องการคือ ทำอย่างไรจะเห็นสินค้าได้หมด ที่เดียวจบเลย ก็เริ่มจากโกดังแรก เนื้อที่ 1 ไร่ หลังจาก 6 เดือนก็เริ่มขยายอีกโกดัง ในเรื่องของการจัดวางก็สำคัญ พอดีมีเพื่อนๆที่ขายอะไหล่เก่า ไปประมูลตระกร้าใส่สินค้าจากห้างต่างๆ จากบิ๊กซี โลตัส บ้าง ก็เห็นว่าตระกร้าแบบนี้ต้องมาประยุกต์ได้ดี จึงเริ่มสั่งจากโรงงานให้ทำตระกร้านี้มาส่ง แต่ใหญ่กว่า สั่งมาครั้งแรกนี่ 1000 ใบ ก็เลยออกมาคล้ายๆห้องโลตัส ที่ลูกค้าเดินเลือกซื้อของได้สะดวก จากนั้นก็สั่งรถเข็นสินค้าเข้ามา เอาอะไหล่ต่างๆมาลง แล้วเริ่มใส่บาร์โค้ดสินค้า
Q: จะ เรียกได้ว่า ร้านพนมอะไหล่เป็นหนึ่งในร้านอะไหล่แรกที่ใจกล้า ใจใหญ่เริ่มขายแบบ GIANT STORE ขณะที่ร้านอะไหล่มากมายก็ยังเปิดหน้าร้านอยู่ ไม่กลัวว่าจะล้มหรือ ?
A: ไม่กลัว เพราะว่าที่ร้านเดิมที่ขายอยู่ตรงถนนแพรกษา สมุทรปราการ เราก็ขายดีอยู่แล้ว ขายมานานถึง 17 ปี ร้านนั้นเป็นร้านแรกๆเลย ซึ่งแรกๆเราก็ค้าส่งมาก่อนเป็นปีแรกเลย ไม่มีหน้าร้านแบบทั่วไป หลังจากนั้น 17 ปีหลัง เราถึงมาเปิดแบบหน้าร้านด้วย จากหนึ่งห้องก็ขยายเป็นสาม จากสามมาเป็นสี่ห้อง จากสี่เป็นหก และจากหกก็มาเป็น 2 ไร่ แล้วก็มาจนถึงขยายสาขาเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันนี้ ร้านเดิมๆเราก็ไม่ได้ขายทิ้ง ก็ยังเปิดขายอยู่
Q: ปัจจุบัน พนมอะไหล่มีกี่สาขา
A: เรามีสี่สาขา รวมกับ WAREHOUSE อีก 1 นอกจากนี้มีสาขาเฟรนไชส์ที่เปิดไปแล้ว 2 สาขา คือที่สาขาบางพลี และที่ถนนสายลวด สมุทรปราการ (ปัจจุบัน มีอีก 2 สาขา คือที่ตลาดนานาเจริญ และ มหาชัย) และก็กำลังจะเปิดที่มหาชัย ตรงทางไปกระทุ่มแบน เปิดสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ คอนเซ็ปต์สาขาต่างๆหรูหรา เหมือนกันทุกอย่าง
Q: ก่อนที่จะมาเป็น PANOM GIANT STORE อย่างทุกวันนี้ จับกระแสธุรกิจอย่างไร
A:ก็ เริ่มมาจากคุณพนม แต่งรถมอเตอร์ไซค์มาก่อน ซึ่งคุณพนมเวลาแต่งรถ อะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆนั้นก็จะนำมาทำขายด้วย เพราะส่วนใหญ่คนที่แต่งรถจะแต่งรถกันอย่างเดียว ไม่ได้ผลิตสินค้าออกมาขาย ไอเดียต่างๆที่นำมาแต่ง แต่งแล้วก็ทิ้งไปซึ่งก็น่าเสียดายความรู้ความสามารถ ซึ่งตรงนี้ คือว่าคนที่เคยแต่งรถเมื่อสิบปีก่อน ถ้าผลิตสินค้าออกมาขาย ก็จะมีรไอเดียที่สร้างสรรค์กว่านี้มากมาย แต่ละคนที่แต่งรถนั้นยอมรับเลยว่าล้วนเก่งๆทั้งสิ้นในแบบของแต่ละคน ไม่มีใครแพ้กันเลยในเรื่องของไอเดีย ความรรู้ ความสามารถ แล้วช่างหลายคน คนแต่งรถหลายคนก็รู้จักกันทั้งนั้น ตอนนี้เราก็เริ่มรวบรวมให้มาทำงานร่วมกัน
Q: สมัยที่ว่านั้น มีใครตกแต่งรถเก่งๆ ดังๆบ้าง
A: ยุคนั้นที่แต่งเก่งๆก็จะมีร้านลิขิต (LIKIT ลาดพร้าว 48) ที่เห็นแต่งรถมาโดยตลอด แล้วก็มี เอ็กซ์-สปีด (X-SPEED - คุณวิทย์ ตลาดพูลทรัพย์) มี เอส อาร์ วาย (SRY-คุณตี๋ อยู่ที่มหาชัย) ซึ่งเอส อาร์ วายนี่ต้องเรียกว่าแต่งรถในระดับเทพ ก็เสียดายที่เขาเป็นศิลปิน ไม่ผลิตอะไหล่ตกแต่งเลย ก็เคยบอกเขาว่า ทำออกมาขายสิ เขาก็บอกว่าเขาเป็นศิลปินไม่อยากทำมาขาย เสียดายมาก แต่อย่างคุณพนมนี่ไม่ใช่ เพราะเป็นทั้งนักคิดและนักทำไปพร้อมๆกัน เห็นสินค้าอะไหล่มีกระแสตลาดดีๆก็จะนำมาทำ อันนี้ก็เลยทำให้เกิดแบรนด์พนมขึ้นมา พร้อมกับการทำคลังสินค้าแบบซุปเปอร์สโตร์ ที่โกดัง นี่เราเรียกว่า พนมไจแอนท์ สโตร์ (PANOM GIANT STORE) ชื่อเต็มๆเลยนะ
Q: อย่างทุกวันนี้ สมมติว่ามีใครสักคนอยากทำ ไจแอนท์ สโตร์แบบนี้ขึ้นมา ยังมีช่องว่างของตลาดไหม
A: คิดว่าถ้าจะทำคลังสินค้าใหญ่ๆแบบนี้ขึ้น คนๆนั้นก็ต้องสะสมสินค้ามาพอสมควร ไม่ใช่ว่าเมื่อมีเงินเป็นร้อยล้านแล้วคิดว่าจะทำได้ มันทำไม่ได้ เพราะคุณเองก็จะตายไปพร้อมกับเงินร้อยล้านนั่นแหละ เพราะสินค้าอะไหล่แต่งอย่างที่ทุกคนในวงการกลัวก็คือ มันมาไวไปไว บางทีรถที่กระแสตลาดเขาไม่อยู่แล้ว ไม่นิยมกันแล้ว อะไหล่แต่งก็จะหายไปด้วย ผิดกับสินค้าเดิมที่ยังคงอยู่ ปัจจุบันนี้ รถคันๆหนึ่งตกแต่ง 80 % นอกนั้นเป็นอะไหล่เดิม หรือจะพูดกันเป็นสัดส่วนอย่างแฟร์เลยก็ 50-50 นี่ก็ทั้งแต่งและอะไหล่เดิมอย่างละ 50 อย่างรถคันหนึ่งนี่ก็ต้องมีอะไหล่แต่ง น้อยที่สุดอย่างละนิดละหน่อยนี่ก็ต้องมีแล้ว ตัวอย่างเช่นออกรถมาปุ๊บต้องแต่งเลย สินค้าอะไหล่แต่งยอดนิยมที่ขายกันมายาวนานนี่ก็คือ วงล้อ แต่ปัจจุบันนี้กลายเป็นเบาะที่ขายดี อาจจะเป็นเพราะเบาะปาดง่าย เปลี่ยนลายได้
Q: ก็ต้องถือเลยว่าร้านพนมมาพร้อมกับช่วงเวลาและจังหวะที่ดี
A: ใช่ ถามว่าเราเป็นเบญจภาคีไหม คือเป็น 1 ใน 5 ของวงการอะไหล่แต่งละก็ใช่ เพราะคุณพนมก็อยู่ใน 5 นั้น ถ้าจะถามว่าลำดับที่เท่าไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่าสมันน็อต POSH ราคาตัวละเป็นร้อย กล่องละเป็นแสน คุณพนมก็ซื้อมาแล้วเพื่อมาขาย POSH นี่จริงๆแล้วเป็นของญี่ปุ่น POSH แปลว่าสวยงาม ในไทยนี่การจดลิขสิทธิ์ไม่มีใครทำได้ ก็เอามาทำขายกันดังมาก จนภายหลังมีการจับเรื่องลิขสิทธิ์มากจนร้านต่างๆเลิกขาย ปัจจุบันน่าจะถือว่าในเมืองไทยนี่ได้ตายไปแล้ว
Q: กลับมาเรื่อง PANOM GIANT STORE นี่สร้างลูกค้ารวยมาเยอะแล้วใช่ไหม
A: เยอะ เพราะเราเป็รายแรกที่ใช้คำว่า ให้คำปรึกษาเปิดร้านอะไหล่ ปัจจุบันก็มีหลายร้านที่ใช้คำเหมือนเรา แต่เรากล้าพูดเลยว่า เป็นรายแรกในประเทศไทยที่ใช้คำนี้มานานมากว่า สิบกว่าปีแล้ว ลูกค้าที่เราให้คำปรึกษาเปิดร้านไปเป็นร้อยๆร้าน
Q: การเปิดร้านอะไหล่ขายสินค้า อย่างแรกต้องมีอะไรบ้างถึงจะเปิดได้
A:สำหรับ ที่พนม ตอนนี้เรามี 2 คอนเซ็ปต์ ของการเปิดร้าน คอนเซ็ปต์แรกคือ เปฺ็นเฟรนไชส์ของพนมจริงๆ ต้องมีทุนทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 3ล้านบาทขึ้นไป มีการตกแต่งร้านเหมือนเรา หรูหรา ติดแอร์ ของขายครบ ซึ่งร้านควรมีขนาด 2 คูหา หรือ ถ้า 3 คูหาจะสวยมากกว่า ส่วนคอนเซปต์ที่ 2 คือเปิดร้านอะไหล่แบบทั่วไปแบบคูหาเดียว ทุนทรัพย์ตั้งแต่ 3 แสนขึ้นไป แบบนี้เป็นค่าสินค้าอย่างเดียว ไม่รวมตกแต่งร้าน สามารถมาซื้อสินค้าใน PANOM GIANT STORE ได้เลย
Q: แล้วอย่างทุนน้อยมีสิทธิ์รวยได้ไหม
A: อยากจะบอกว่า เปิดได้ แต่ยากหน่อย เพราะร้านเปิดแบบนี้มันเยอะขึ้น คู่แข่งเยอะ เปิดกันมากจนเหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวแล้ว คือเยอะมาก..แล้วการเปิดร้านด้วยทุน 3 แสนนี่ก็ได้ของน้อย ไม่ครบ อย่างลูกค้าเดินเข้ามาสิบคน อาจจะได้ของซักสามคน เสียโอกาสในการขาย แต่ถ้าเปิดแบบเฟรนไชส์แบบ 3 ล้านขึ้นไป เข้าร้านสิบคนนี่อาจได้ของไปสักเจ็ดคน แบบ 3 แสนสินค้าจะเป็นแบบเดิมๆครึ่งหนึ่ง เป็นของขายง่ายๆ แต่กำไรก็น้อยหน่อย ต้องขยันส่งของซื้อของเข้าร้านบ่อยๆทุกวัน อย่าร้าน PANOM GIANT STORE ก็เปิดทุกวันตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงคืน ซึ่งลูกค้าปิดร้านแล้วสามารถมาช็อปของเราได้ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่า กลางคืนเราก็ขายดีมากบางวันอาจจะเยอะมากกว่ากลางวันเสียอีก ส่วนที่เฟรนไชส์ขาย เปิด 8.00-21.00 น.
Q: ก้าวต่อไปของพนมคืออะไร
A: ที่ตั้งเป้าเอาไว้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ก็คือ การทำช้อปปิ้ง มอลล์ เล็กๆ ซึ่งทางเราซื้อที่เอาไว้แล้ว 3 ไร่ครึ่ง ประกอบด้วย ไจแอนท์ สโตร์ขนาดใหญ่ ร้านอะไหล่แบรนด์เนม คือแบ่งเป็นโซน เช่นโซนโรงงานผลิต โรงงาน CNC มีช็อปเครื่องกว้าง เครื่องกลึงช็อปแต่งรถ โซนไจแอนท์ สโตร์สำหรับ ลูกค้าขายส่ง และปลีก อีกโซนเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ ของว่าง เรียกได้ว่าเป็นอาณาจักรของมอเตอร์ไซค์เลย
Q: แล้วช้อปปิ้ง มอลล์นี้อยู่ที่ไหน
A: อยู่ที่บางปู ใกล้นิคมอุตสาหกรรมบางปู เราซื้อที่เอาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนเขียนแบบก่อสร้างอยู่ คิดว่าคงไม่เกิน 5 ปีคงเสร็จเรียบร้อย แต่ในส่วนอื่นๆเราก็ยังคงขยายและพัฒนาไปให้มากขึ้น เช่นการขยายเฟรมไชส์ ส่วนสินค้าของเราก็มีผู้ผลิตเป็นร้อยบริษัท ปัจจุบันสินค้าที่เราอัพเดตอยู่เรื่อยๆนี่ ประมาณ 27,000 ชนิด เป็นทั้งสินค้าที่ทั้งส่งออกและนำเข้า
Q: แล้วการออกแบบอะไหล่แต่งของบริษัทต่างๆเป็นแบบต่างคนต่างทำ หรือรวมกลุ่มกัน
A: แต่ละครั้งที่จะทำรถแต่งอะไหล่แต่งหรือของแต่ง ทางกลุ่มหรือสมาคมของเราก็จะร่วมมือกันทำสินค้า ออกมาแล้ววางในช็อป ในสโตร์ เมื่อสินค้าขายดี ก็ทำให้รถยี่ห้อนั้นๆขายดีมากขึ้น เพราะมีกระแสแต่งออกมา ถ้ารถนี่ห้อไหนที่มีสินค้าแต่งในตลาดเยอะ รถรุ่นนั้นก็จะมียอดขายดีด้วย ซึ่งทางเราก็ได้ทำสถิติมานานแล้ว มันเป็น วัฏจักรรถ
Q: กลุ่มหรือสมาคมที่ว่านี้คือสมาคม KAPMA หรือเปล่า
A: เป็นทั้งสมาคม KAPMA และนอกกลุ่มด้วยเพราะ การที่มาเป็นสมาคมนี้เกิดขึ้นมาก็เป็นเพราะเพื่อนกันมาก่อน รวมถึงการเป็นเพื่อนทางการค้ากันมานาน แล้วพอมาทำงานร่วมกันก็ไปได้ดี เข้าใจกันง่ายขึ้น ไม่ขายแข่งกัน ไม่ทำของแข่งกันหรือตัดราคากัน เพราเราโดนกระแสภายนอกกดดันมาเยอะ คราวนี้เราต้องเดินไปด้วยกัน ทำให้เรามีคติพจน์ว่าถ้าเราผลัดกันดีก็จะได้ดีถ้าเราแข่งกันดี จะไม่ได้ดี สมาคมเราตอนนี้มีกลุ่มบริษัทมากกว่า 25 บริษัทแล้ว สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มก็ดูได้ที่เวปไซต์ของเรา ใครอยากเป็นสมาชิกร่วมกับเราก็สามารถโหลดใบสมัครสมาชิกมาได้ ซึ่งทางสมาคมก็จะมีกิจกรรมต่างๆ ความเคลื่อนไหว คนทั่วไปหรือ ผู้ผลิต ผู้สนใจเกี่ยวกับอะไหล่แต่ง ก็เข้ามาดูได้ที่ www.kapmathai.org
Q: แล้วการเข้ากลุ่ม KAPMA ได้ประโยชน์อย่างไร
A: ก็ต้องย้อนไปก่อนเกิดสมาคม KAPMA ว่าเราเป็นเพื่อนกันมาสังสรรค์กันรวมตัวกันเป็นความสามัคคีสำหรับ ธุรกิจนี้ ก็เลยตั้งขึ้น ปัจจุบันนี้ก็ส่งผลแล้ว เมื่อทางเราได้งบสนับสนุนจาก สสว. จาก BOI ให้ทางสมาคมเดียวที่เกี่ยวกับอะไหล่มอเตอร์ไซค์ที่ประกอบกันทั้งผู้ผลิตและ ร้านค้า สำหรับประโยชน์ของกลุ่มก็คือ สร้างสินค้าที่มีคุณภาพ สร้างเกราะป้องกันแรงกระทบจากภายนอก หรือต่างประเทศ เช่นการขายสินค้ามาตัดราคา กันเอง หรือกีดกันกัน จึงต้องสร้างความสามัคคี รู้เขารู้เรา ไม่ผลิตสินค้าแบบเดียวกันมาตัดราคา แต่หลีกให้กัน ทำธุรกิจแบบเพื่อนช่วยกัน ที่เราสร้างสมาคมขึ้นมาเรานึกถึงไกลไปในอนาคต ให้อยู่ถึงลูกถึงหลานเหลน ซึ่งสามารถรับทอดกิจการต่อไปได้ การทำธุรกิจถ้าไร้น้ำใจก็จบตั้งแต่ร้านแรก ไม่ต้องพูดถึงสาขา สองสามสี่ แต่ถ้าเรามีน้ำใจ มีคุณธรรม โรงงานก็ส่งเสริมคุณ ลูกค้าก็ส่งเสริมคุณ ก็ไปได้เรื่อยๆ ไม่มีวันตก
Q: แล้วโร้ดโชว์ที่ว่า ไปที่ไหนมาบ้าง
A: ครั้งแรกก็เป็นที่เป็นเทศ อินโดนีเซีย ที่สมาคมไปกับสถาบัน BOI ส่วนครั้งที่สองและสามไปเวียดนาม ครั้งสองนี่ไปเมืองโฮจิมิน สามไปฮานอย ที่เพิ่งไปมาครั้งที่สี่ก็ไปโร้ดโชว์ ที่เมืองโฮจิมิน ส่วนโปรแกรมถัดจากนี้ก็ไปประเทศพม่า และจีน การตอบรับดีมากก็ได้ลูกค้ากลับมาเยอะ เพราะตลาดที่เวียดนามใหญ่มาก เป็นลูกค้าที่ดีกับเราตลอด ดีกว่าอินโดนีเซียซึ่งช่วงหลังนี่ไปซื้อของจากจีนเยอะมาก
Q: แล้วสำหรับกิจกรรมอื่นๆเป็นรูปธรรมล่ะ KAPMA คิดจัดงานอะไรในไทยบ้าง
A: เรามีโครงการที่คิดไว้นานแล้ว เป็นโครงการงาน BIKE SALON ที่ทางสมาคมเราประชุมกันอยู่ว่าจะเริ่มตรงจุดไหน ที่ไหน ตอนนี้กำลังถกเถียงกันว่า จะจัดที่ไหนอันเป็นดีที่สุด ก็มีโหวตมาเช่น ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตต์ ศูนย์ไบเทค บางนา เซ็นทรัล เวิล์ด และหลังซีคอน สแควร์ ก็พยายามหาที่ๆมีการตอบรับมากที่สุด เหมาะสมที่สุด จึงจะเริ่มเพลนงานได้แน่นอน รูปแบบงานก็เป็นโชว์อะไหล่ตกแต่ง มีรถตกแต่งมาโชว์ เหมือนที่ไต้หวันและญี่ปุ่นจัด เรื่องจัดงาน BIKE SALON นี่เป็นความฝันของคนทำอะไหล่ ตอนนี้สมาคมเราก็เริ่มแข็งแกร่ง คิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน คิดว่างานนี้จะต้องจัดแน่นอน ตั้งชื่อไว้ว่า BANGKOK BIKE SALON ก็ให้คอยติดตามข่าวจาก KAPMA ได้
Q: สุดท้าย ขอสรุปให้หน่อย
A: ก็คงหันมาเรื่องที่ว่า ใครที่สนใจจะเปิดร้านอะไหล่แต่งมอเตอร์ไซค์ มีทุน มีใจรัก มีความมุ่งมั่น โดยงบประมาณไม่มากนัก ก็สามารถทำได้ แต่คุณต้องมุ่งมั่น เพราะการขายอะไหล่มอเตอร์ไซค์เป็นธุรกิจที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษมากกว่าอย่าง อื่น ซึ่งที่เหลือให้เป็น คำปรึกษาของร้านพนมอะไหล่ เพราะเรามีคำแนะนำครบวงจร เรามีระบบบาร์โค้ด มีระบบคอมพิวเตอร์ขึ้นตอนการจัดร้าน จัดวางของ การลงสินค้า เรามีครบวงจรจริงๆ สิ่งที่คุณคิดว่ายาก จะลดลงมาครึ่งนึง และอีกครึ่งให้เราจัดการ คุณต้องมุ่งมั่นกับการขายอะไหล่ อย่ารอเพราะจะไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย แต่ที่ผ่านมาเราเคยสะดุดอะไรบ้าง เคยพบอุปสรรคอะไรไหม แล้วผ่านมันมาได้อย่างไร เพราะความสำเร็จนั้นทุกสิ่งไม่ได้มาโดยง่าย เราได้มาเพราะคามมุ่งมั่น ความอุตสาหะ ความอดทน และเราทำร้านอะไหล่มาอย่างเดียวจริงๆ ไม่มีอาชีพอื่นใด
|
